วิธีการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟคั่ว

เมล็ดกาแฟคั่วถือว่าเป็นสินค้าที่เสื่อมคุณภาพค่อนข้างเร็ว โดนธรรมชาติของเมล็ดกาแฟคั่วจะมีการคายก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ออกมามากใน ช่วง 1-3 วัน หลังคั่ว และจะค่อยๆลดระกับการคายก๊าซลงเรื่อยๆพร้อมกับการเสื่อมคุณภาพ เมล็ดกาแฟคั่วจะมีคุณภาพดีที่สุดในช่วง 3-15 วันหลัง คั่วและมีอายุการเก็บรักษาเพียง 1-3 เดือนเท่านั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการเก็บรักษาและภาชนะที่ใช้บรรจุ ดังนั้นควรมีการวางแผนสต๊อกของเมล็ดกาแฟคั่วให้ดี
ปัจจัยที่มีผลต่ออายุการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟคั่วปัจจัยภายใน
1. ระดับในการคั่ว ระดับในการคั่วมีผลโดยตรงกับอายุการเก็บรักษา กาแฟที่คั่วในระดับเข้มจะมีอายุการเก็บรักษาที่สั้นกว่ากาแฟที่คั่วระดับอ่อน
2. รูปแบบของกาแฟคั่ว(แบบเม็ดหรือแบบบดผง)กาแฟคั่วที่บดเป็นผงจะเสื่อมคุณภาพเร็วกว่ากาแฟคั่วแบบเม็ด ดังนั้นควรให้พอแต่ปริมาณที่ต้อง การใช้ไม่ควรบดไว้ข้ามวัน
ปัจจัยภายนอก
1. อากาศ(ก๊าซอ๊อกซิเจน) เมล็ดกาแฟหลังจากคั่วแล้วจะคายก๊าซออกมาพร้อมกับน้ำมัน สังเกตได้ว่ากาแฟที่คั่วเข้มหรือกาแฟ ที่คั่วไว้นานๆ จะมีน้ำมันเคลือบอยู่ที่ผิวของเมล็ดกาแฟ ซึ่งน้ำมันนี้เองจะทำปฏิกิริยากับอ๊อกซิเจนในอากาศ
2. ความชื้น ความชื้นหรือไอน้ำในอากาศนอกจากจะทำให้เมล็ดกาแฟคั่วมีความกรอบลดลงแล้ว อ๊อกซิเจนซึ่งเป็น ส่วนประกอบของน้ำก็มีผลทำให้คุณภาพของเมล็ดกาแฟคั่วลดลงไปด้วย
3.อุณหภูมิและแสงแดด อุณหภูมิที่สูงและพลังงานจากแสงแดดมีผลต่อการเร่งปฎิกิริยาในเมล็ดกาแฟให้เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น ทำให้กลิ่นและรสชาติของกาแฟเสียไป
ควรเก็บเมล็ดกาแฟคั่วแบบไหนดี?

ร้านกาแฟแต่ละร้านมีวิธีการเก็บเมล็ดกาแฟคั่วที่แต่ต่างกัน ในที่นี้ของแนะนำวิธีการเก็บรักษาแบบง่ายๆและได้ผลค่อนข้างดี คือ ควรเก็บให้ปลอดภัย จากปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นและสำหรับเมล็ดกาแฟคั่วที่แกะออกจากถุงแล้วใช้ไม่หมด เราแนะนำให้เก็บไว้ในภาชนะบรรจุเดิมโดยให้ปฏิบัติ ดังนี้
1. ไล่อากาศซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญออกจากถุงให้มากที่สุด
2. หากมีที่ซีลถุงให้ใช้เครื่องซีลปากถุงไว้เหมือนเดิมหรือถ้าหากไม่มีเครื่อง ให้พับปากถุงแล้วใช้เทปกาวปิดปากถุงให้สนิท
3. เก็บถุงกาแฟไว้ให้ปลอดภัยจาก ความชื้น ความร้อน และแสงแดด
“การใส่ใจในทุกรายละเอียดนั้นแสดงถึงความจริงใจ นำมาซึ่งมิตรภาพและความทรงจำดีๆ”