Moka Pot

          เครื่องชงกาแฟแบบ Moka Pot เป็นเครื่องชงกาแฟ
สุดคลาสสิคถูกคิดค้นขึ้นในประเทศอิตาลีราวเมื่อปี ค.ศ.1933
เป็นวิธีการชงที่อาศัยแรงดันของน้ำเดือดไหลผ่านผงกาแฟบด
และตระแกรงกรอง ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับเครื่องชงกาแฟ
แบบ เอสเพรสโซ่ ในปัจจุบัน มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้
น้ำกาแฟที่มีรสเข้ม ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศอิตาลีและ
ประเทศในแถบยุโรปพูดได้ว่ามีกันแทบทุกบ้าน มีหลากหลาย
รูปแบบและขนาดให้เลือกทั้งแบบตั้งบนเตาและแบบใช้ไฟฟ้า
ขนาด 150ml-600ml ทำจากโลหะแข็งแรงทนทาน
ทั้งนี้รสชาติของกาแฟที่ได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับวิธีการชงที่ถูกต้องด้วย

อุปกรณ์การชงกาแฟแบบ Moka Pot
1. เครื่องชงกาแฟแบบ Moka Pot ซึ่งโดยทั่วไปนั้นจะมีส่วนประกอบหลักอยู่ 4 ชิ้นคือ ส่วนที่เป็นหม้อต้ม กระเพาะใส่ผงกาแฟ ตระแกรงกรอง(Filter)ส่วนใหญ่ตระแกรงกรองจะมีสองชิ้นคือจะอยู่ที่กระเพาะใส่ ผงกาแฟหนึ่งชิ้นและติดอยู่กับหม้อเก็บน้ำกาแฟอีกหนึ่งชิ้น และชิ้นที่สี่จะเป็นหม้อเก็บน้ำกาแฟ
2. ผงกาแฟบด(ควรบดผงกาแฟให้หยาบกว่าผงกาแฟที่ใช้ชงแบบ Drip และ Espresso เล็กน้อย แนะนำให้บดเองนะครับเพราะความละเอียดของผงกาแฟมีผลอย่างมากต่อคุณภาพและรสชาติของกาแฟ หากบดละเอียดไปจะทำให้มีผงกาแฟและโคลนติดมามากหรือถ้าหยาบไปจะทำให้การสกัดไม่สมบูรณ์ อาจใช้วิธีบดไปชงไปเพื่อหาความสมดุลระหว่างความละเอียดของผงกาแฟกับรสชาติที่คุณต้องการ)
3. น้ำสะอาดสำหรับใช้ชง(แนะนำให้ใช้น้ำร้อนนะครับเพราะจะช่วยประหยัดเวลาในการชงและทำให้รสชาติของ กาแฟที่ได้ไม่ขมมากเกินไปเนื่องจากตัวเครื่อง Moka Pot ทำจากโลหะซึ่งนำความร้อนได้ดี ระยะเวลาการ ชงที่นานเกินไปจะทำให้เกิดการไหม้ของผงกาแฟได้ เป็นสาเหตุให้กาแฟมีรสขมและกลิ่นไหม้ครับ)

วิธีการชงกาแฟด้วยเครื่อง Moka Pot
1. เตรียมเครื่องชงออกเป็นชิ้น ๆ เติมน้ำในหม้อต้มในระดับวาล์วระบายแรงดันพอดีไม่ควรเติมจนท่วม เพราะจะทำให้น้ำร้อนพุ่งออกที่วาล์วได้
2. เติมผงกาแฟในกระเพาะโดยใส่ตระแกรงกรองชิ้นที่หนึ่งในกระเพาะก่อนแล้วจึงเติมผงกาแฟลงไปให้ พูนเล็กน้อย กดผงกาแฟลงเบาๆให้พอดีกับระดับขอบของกระเพาะ
3. ประกอบส่วนของตะแกรงกรองชิ้นที่สองและหม้อเก็บน้ำกาแฟซึ่งอยู่ติดกัน หมุนให้แน่น หากเป็น เครื่องแบบตั้งเตาก็นำไปวางบนเตาหรือถ้าเป็นแบบไฟฟ้าก็เสียบปลั๊กและเปิดสวิ๊ทได้เลย ให้เปิดฝาของ หม้อเก็บน้ำกาแฟไว้เพื่อสังเกตุการไหลของน้ำกาแฟหากได้ปริมาณตามต้องการแล้วก็ให้ยกออกจากเตา หรือปิดสวิ๊ทโดยให้เผื่อปริมาณน้ำกาแฟลงเล็กน้อย เพราะถึงแม้ว่าจะยกลงจากเตาหรือปิดสวิ๊ทแล้วก็ตาม แต่น้ำในหม้อต้มยังเดือดอยู่จึงทำให้ยังมีน้ำกาแฟไหลอยู่สักครู่แล้วถึงจะหยุดไหล รินดื่มได้เลยครับ “ขั้นตอนง่าย ๆ ให้รายละเอียดสักนิด เพื่อความสุนทรี ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการชงกาแฟดื่มเองนะครับ”